รู้หรือไม่จากสถิติพบว่า Facebook เป็นช่องทางยอดนิยมของคนไทยที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดถึง 94% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าถึงด้วยโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเป็นช่องทางที่คนนิยมใช้งาน จึงทำให้ช่องทางของเฟสบุ๊คถือว่าเป็นช่องทางที่เหมาะในการทำการตลาดออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยิงAdsซึ่งถือว่าเป็นการทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ควรจะรู้ว่า Facebook Ads มีกี่ประเภท เพื่อที่จะได้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม และ เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่ดีกลับมา มารู้จักประเภทของfacebook Adsไปด้วยกันในบทความเลย
Highlight Facebook Ads ที่ต้องรู้!!!
มารู้จักว่า Facebook Ads มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง?
การทำโฆษณาบนช่องทาง Facebook ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว เพราะว่ากลุ่มเป้าหมายมีหลากหลาย อีกทั้งวัตถุประสงค์ในการโฆษณายังมีหลายประเภทอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสร้างการรับรู้ ซึ่งเป็นการทำให้คนรู้จักแบรนด์ สินค้าของคุณ การสร้างการพิจารณา การทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีบทบาทกับโฆษณาของคุณ และ การสร้างคอนเวอร์ชั่น ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ประเภทของโฆษณาเฟสบุ๊ค มีทั้งหมด 5 ประเภท ดังต่อไปนี้
- Image Ads – โฆษณารูปแบบรูปภาพ
- Video Ads – โฆษณารูปแบบวิดีโอ
- Carousel Ads – โฆษณารูปแบบภาพสไลด์
- Collection Ads – โฆษณารูปแบบคอลเลกชั่นรูปภาพ
Image Ads
(โฆษณารูปแบบรูปภาพ)
เป็นโฆษณารูปแบบที่ใช้ภาพเกี่ยวกับแบรนด์ หรือ สินค้าในการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถเลือกให้โฆษณาแสดงรูปภาพบนฟีดข่าวได้ เพื่อกระตุ้นให้คนเกิดความสนใจ นอกจากรูปภาพแล้วยังสามารถเพิ่มข้อความอธิบายได้ ซึ่งไม่ควรให้เกิน 30 ตัวอักษร
ประเภทของไฟล์ภาพที่แนะนำ : ไฟล์ JPG หรือ PNG
อัตราส่วนภาพที่แนะนำ : 1:1 (1080 x 1080 px) หรือ 1.91:1 (1080 x 565 px)
ข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ : เข้าใจได้ง่าย แสดงให้เห็นรูปของแบรนด์ สินค้าได้อย่างชัดเจน
เหมาะสำหรับใช้งานแบบไหน : การโปรโมทสินค้า สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์
Video Ads
(โฆษณารูปแบบวิดีโอ)
รูปแบบของโฆษณาที่จะช่วยในการนำเสนอสินค้า บริการของคุณให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างการจดจำได้ง่าย อาจจะใช้วิดิโอที่มีทั้งภาพ และ เสียงเพื่อความน่าสนใจ ควรใช้วิดีโอสั้นๆ อย่างน้อย 6 นาทีหรือสั้นกว่านั้น เพื่อความกระชับ
ช่องทาง และ อัตราส่วนของวิดีโอที่แนะนำ : ฟีดข่าว (4:5) สตอรี่ (9:16) และ สตรีม (16:9)
ข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ : ดึงดูดความสนใจได้ดี ดูแล้วเข้าใจได้ง่ายไม่จำเป็นต้องใช้ข้อความช่วย
เหมาะสำหรับใช้งานแบบไหน : ทำให้คนรู้จักแบรนด์ สินค้าเรามากยิ่งขึ้น และ ช่วยในการโน้มน้าวใจลูกค้า
Carousel Ads
(โฆษณารูปแบบภาพสไลด์)
เป็นโฆษณารูปแบบของสไลด์แสดงรูปภาพ และ วิดีโอ ที่ช่วยให้คุณสามารถแสดงรูปภาพ วิดีโอต่างๆ ได้หลายๆชิ้นในโฆษณาตัวเดียว (ภาพ/วิดีโอตั้งแต่ 2 ขึ้นไป) ซึ่งแต่ละภาพ หรือ วิดีโอก็สามารถที่จะคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ หรือ ลิ้งค์ของคุณได้ อีกทั้งยังทำให้สามารถเล่าเรื่องเป็นเรื่องราวที่ต่อกันได้
อัตราส่วนของวิดีโอที่แนะนำ : 1.91:1
ข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ : สามารถดึงลูกค้าไปยังลิ้งค์อื่นๆ หรือ เว็บไซต์เพิ่มเติมได้ และ สามารถเข้าถึงสินค้าได้หลากหลายชนิด
เหมาะสำหรับใช้งานแบบไหน : ใช้ในการแสดงสินค้าที่ต้องการแนะนำ หรือ โปรโมท และ ใช้ในการเล่าเรื่อง แสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกัน
Collection Ads
(โฆษณารูปแบบคอลเลกชั่น)
เป็นโฆษณารูปแบบของรูปภาพ หรือ วิดีโอที่ช่วยให้เข้าถึงสินค้า ของคุณมากยิ่งขึ้น ใช้ในการแสดงให้เห็นสินค้ามุมต่างๆ หรือ สีต่างๆ หรือ สินค้าที่ต้องการโปรโมทในคอลเลกชั่นเดียวกัน โดยจะแสดงรูปแบบของโฆษณาเป็นรูปเล็กๆ แต่เมื่อคลิกเข้าไปจะกลายเป็นรูปขนาดเต็มหน้าจอ (Instant Experience)
รูปแบบของคอลเลกชั่นที่แนะนำ : รูปแบบของคอลเลกชั่นคือจะมีรูปหลัก และ รูปย่อยๆแบบ 1+3 (รูปปก 1 + รูปเล็ก 3) และ 1+2 (รูปปก 1 + รูปเล็ก 2)
อัตราส่วนภาพที่แนะนำ : 1+3 ให้ใช้รูปปกขนาด 720 x 1080 px + รูปเล็กขนาด 1:1 และ คอลเลกชั่นแบบ 1+2 ให้ใช้รูปปกขนาด 540 x 1080 px + รูปเล็กขนาด 1:1
ข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ : ช่วยทำให้เห็นสินค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะไม่เหมือนแบบสไลด์ที่ต้องปัดเพื่อดูสินค้าเพิ่มเติม และ กระตุ้นให้คนคลิกเข้าไปดูสินค้ารูปใหญ่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เหมาะสำหรับใช้งานแบบไหน : นำเสนอสินค้าที่เป็นเช็ต หรือ นำเสนอสินค้าหลายๆชิ้นในคอลเลกชั่นเดียวกัน
ทำอย่างไรให้ Ads ดึงดูดใจลูกค้า!!!
นอกจากการเลือกรูปแบบของโฆษณาให้เหมาะสมกับแบรนด์ สินค้า หรือ กลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังต้องอาศัยเทคนิคในการดึงดูดใจลูกค้าอีกด้วย ซึ่งจะทำให้โฆษณาของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเข้าใจผู้บริโภคว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร ความสนใจ และ พฤติกรรมเป็นอย่างไร
- ข้อความดึงดูดใจ นอกจากรูปภาพที่จะต้องดูสวยงามแล้ว คนยังให้ความสนใจกับข้อความที่โดดเด้นอีกด้วย อาจจะใช้ข้อความที่สื่อถึงสินค้า ที่สั้นแต่กระชับ ได้ใจความโดนใจลูกค้า โดยดูจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่บ้าน หรือ คนวัยทำงาน ก็ให้ข้อความที่เน้นโปรโมชั่น อาทิ โปรแรงลดกว่าครึ่ง , โปรโมชั่นลดหนักแจกเต็มๆ หากเป็นวัยรุ่นอาจจะใช้ข้อความที่เป็นที่นิยม เช่น ลดกระหน่ำปังไม่ไหว เป็นต้น
- ข้อความที่เป็นคำถาม/คำตอบ การสร้างข้อความที่เป็นคำถามเพื่อดึงให้ลูกค้าอยากหาคำตอบให้เหมาะกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การใช้คำที่อยู่ในชีวิตประจำวัน อาทิ เบื่อไหมการ shopping แบบเดิมๆ? , แก้ปัญหาเรื่องที่คุณกังวลคลิกอ่านเลย เพื่อที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายนึกถึงโฆษณาเรา
- วิดีโอและรูปภาพที่โดดเด่น ใช้วิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเป็นวัยรุ่น ให้ทำการใส่เพลงประกอบ หรือ ใช้เนื้อหาที่แตกต่างๆโดยอาศัยการเล่าเรื่อง หรือ มุมมองอื่นๆในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ แต่ไม่ควรให้เนื้อหาของวิดีโอไม่ควรยาวจนเกินไป เน้นเนื้อหาที่กระชับ ได้ใจความ หากเป็นรูปภาพ ให้ทำ Artwork ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ต้องเน้นรูปให้ดึงดูดในกลุ่มผู้ใหญ่ เน้นรุปประกอบน่ารักในกลุ่มวัยรุ่น เป็นต้น
- เน้นการใส่ชื่อของแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นรูป หรือ วิดีโอควรใส่ logo หรือ ชื่อ เพื่อสร้างการจดจำ การรับรู้ของแบรนด์ ยิ่งคนเห็นก็จะยิ่งทำให้คนจดจำเราได้ หรือ การใช้สีให้โดดเด่นเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย หากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่อาจจะใช้สีที่ดึงดูด แต่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เพื่อสร้างความจำ
- สร้างสไตล์แบบเฉพาะ คล้ายๆกับเราใส่ชื่อแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้ แต่เป็นการทำรูป วิดีโอ สไตล์ของเรา เมื่อคนเห็นก็จะรู้ว่านี่เป็นแบรนด์ของคุณ และ เลือกนำเสนอให้เหมาะสม เช่น การวางภาพ สไตล์ของภาพ ควรจะเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือก
ทำการตลาดกับเราพร้อมวางแผนเพื่อธุรกิจของคุณ
เราเป็นบริษัททางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะ ที่ให้บริการในด้านของการทำ SEM SEO รวมทั้ง การยิงAds และ รูปแบบการทำการตลาดรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งเรายังช่วยในเรื่องการวิเคราะห์และทำความเข้าใจธุรกิจตลอดจนการวางแผน และ ออกแบบรูปแบบการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณพร้อมทีม Support ที่ช่วยดูแลธุรกิจของคุณ ให้สามารถทำยอดขาย และ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
สามารถติดต่อสอบถาม bemyfriend ทางช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : Bemyfriend.agency