จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น??? หากใครที่อยากให้แบรนด์ หรือ ธุรกิจเป็นที่รู้จัก วันนี้ทาง Bemyfriend ของเราจะมาแนะนำอีกหนึ่งรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ ที่จะทำให้คนเห็นเรา รู้จักเรามากขึ้นกว่าเดิม หลายคนอาจจะเคยเห็นการตลาดรูปแบบนี้มาแล้วบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ว่าการตลาดแบบนี้คือการตลาดแบบ GDN ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตลาดจากทาง Google ที่มีความน่าสนใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และ อาจจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มาเป็นลูกค้าในอนาคตได้อีกด้วย หากใครที่มีความสนใจ อยากจะรู้เรื่องราว จะทำความรู้จักว่าเจ้า GDN คือ อะไรกันแน่? จะช่วยให้เราเป็นที่รู้จักได้อย่างไร ไปอ่านในบทความกันเลย!!!
Highlight GDN ที่ต้องรู้!!!
- GDN คืออะไร???
- การแสดงผลของ GDN เป็นแบบไหน?
- เราจะได้อะไรจากการทำ GDN?
- รูปแบบค่าใช้จ่ายมีแบบไหนบ้าง?
- รูปแบบ GDN มีอะไรบ้าง พร้อมขนาดที่เหมาะสม?
GDN คือ อะไร???
อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นแล้วว่า GDN หรือ Google display network นับว่าเป็นหนึ่งการทำการตลาดของทาง Google และ ยังเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำโฆษณาบน Google AdWords เป็นการทำโฆษณาที่จะนำเอาโฆษณาไปแสดงบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่เข้าร่วมกับทาง Google โดยจะเป็นโฆษณาในรูปแบบที่เสียค่าใช้จ่ายในการแสดงโฆษณาเมื่อมีคนทำการคลิกโฆษณาเข้าไป ซึ่งเป็นรูปแบบการโฆษณาแบบ Pay Per Click นั่นเอง โดยโฆษณาที่จะแสดงจะไปปรากฏตามจุดต่างๆ บนเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นในส่วนด้านข้าง ด้านบน ด้านล่างของเว็บไซต์ อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบที่จะแสดงได้ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพแบนเนอร์ , วิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว , ข้อความเคลื่อนไหว ข้อความกะพริบ สามารถเลือกรูปแบบได้ตามการนำไปใช้งาน ทำให้โฆษณาของเราโดดเด่น และ คนเห็นโฆษณาของคุณเยอะขึ้น
นอกจากจะเป็นการโฆษณาที่ทำให้โฆษณาของเราไปแสดงตามจุดต่างๆ แล้ว GDN ยังเป็นการทำโฆษณาในรูปแบบที่จะแสดงโดยการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้า บริการของเรา
การแสดงผลของ GDN เป็นแบบไหน?
การโฆษณาแบบ GDN จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจ ความชอบในสินค้า และ บริการของเราได้ โดยทาง GDN จะทำการส่งโฆษณาไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เราได้เลือกเอาไว้ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเราจริงๆ ได้ และ ทำให้กลุ่มเป้าหมายเราเห็นเราบ่อยขึ้น ส่งผลให้สามารถจดจำเราได้ โดยการเลือกกลุ่มเป้าหมายในการแสดงโฆษณา นอกจากนั้นเรายังสามารถเลือกรูปแบบในการแสดงผลได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นความสนใจ สถานที่ อายุ เพศ
- เว็บไซต์ สามารถกำหนดประเภทของเว็บไซต์ที่ต้องการให้โฆษณาไปแสดงผลได้ เช่น สินค้าของเราเป็นสินค้าเกี่ยวกับผู้หญิง ดังนั้นควรจะเน้นให้โฆษณาไปแสดงในเว็บไซต์นั้นๆ เป็นหลักจะได้ผลตอบรับดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้อง
- ข้อมูลส่วนตัว หากอยากให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจงมากยิ่งขึ้น ก็สามารถเลือกช่วงอายุ หรือ เพศที่ต้องการให้เห็นโฆษณาของเราได้ เช่น เป็นอาหารเสริมที่เน้นผู้หญิงในช่วงวัยทำงานทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจริงๆ ได้
- สถานที่ เข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการ เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เช่น อยากโฆษณาในเขตพื้นที่ที่มีคนทำงานออฟฟิศเยอะๆ แต่ไม่ต้องการที่จะเจาะจงข้อมูลส่วนตัว เพื่อเพิ่มฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
- วันและเวลา ช่วงเวลา และ วันที่จะลงโฆษณาก็นับว่าเป็นอะไรที่สำคัญ คุณสามารถเลือกช่วงที่ต้องการให้โฆษณาไปแสดงได้ เช่น ต้องการให้โฆษณาแสดงในช่วง 16.00-20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มเป้าหมายของเราให้ความสนใจ หรือ ช่วงเวลาอื่นๆ วันอื่นๆ ก็สามารถเลือกได้
- ความถี่ในการแสดงโฆษณา นอกจากวัน และ เวลาที่เราสามารถเลือกในการแสดงผลได้แล้ว ยังเลือกความถี่ในการแสดงโฆษณาได้อีกด้วย เช่น ต้องการให้โฆษณาแสดงวันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาเราได้มากขึ้น
ตัวอย่างในการแสดง GDN อย่างที่เราได้บอกไปว่า GDN มีหลายรูปแบบ และ จะไปแสดงตามส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บไซต์ โดยเราจะยกตัวอย่างเว็บไซต์ยอดฮิตเพื่อให้คุณเห็นภาพมากขึ้น ลองเปิดเข้าไปที่หน้า YouTube บางครั้งหากคุณเป็นกลุ่มเป้าหมายก็จะเห็นโฆษณาบางอย่างเด้งขึ้นมาข้างๆ วิดีโอที่เรากำลังดูอยู่ หรือ ให้ลองเข้าไปที่เว็บไซต์อื่นๆ จะเห็นโฆษณารูปแบบต่างๆ ขึ้นมานั่นเอง
เราจะได้อะไรจากการทำ GDN ?
หากพูดถึงประโยชน์ของการทำโฆษณารูปแบบของ GDN แล้วนอกจากจะสามารถแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์ได้หลากหลาย สามารถเลือกรูปแบบ ข้อมูลในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แล้ว GDN ยังมีประโยชน์อีกมาก
- เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจได้มากยิ่งขึ้น
- สามารถเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ ทำให้ฐานลูกค้ากว้างขึ้น
- ทำให้เกิด Conversion รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อ การอ่านบทความ การสมัครสมาชิก การลงทะเบียนต่างๆ
- เลือกรูปแบบการทำโฆษณาได้หลากหลาย
- เป็นการทำโฆษณาที่ง่ายไม่ยุ่งยากเท่ารูปแบบอื่น
- ทำให้คนเห็น และ จดจำเราได้มากยิ่งขึ้น ผ่านการทำ Remarketing
รูปแบบค่าใช้จ่ายมีแบบไหนบ้าง ?
อย่างที่เราได้บอกตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า GDN เป็นการทำโฆษณาในรูปแบบที่ยึดตามการคลิกเข้าไปในโฆษณา ซึ่งมีรูปแบบในการคิดค่าโฆษณา 2 แบบ
- Cost Per Click (CPC) เป็นการคิดค่าโฆษณาตามจำนวนการคลิก หากมีคนคลิกเข้าไปที่โฆษณาก็จะเสียเงิน แต่หากมีคนเห็นโฆษณาแต่ไม่คลิกก็ไม่เสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นการคลิกแบรนด์เนอร์ วิดีโอ หรือ ข้อความก็ตาม
เหมาะสำหรับ – การโฆษณาที่ต้องการกระตุ้นให้คนเกิด Conversion ต่างๆ เช่น ลงทะเบียนรับส่วนลด หรือ สินค้าราคาพิเศษเฉพาะเว็บไซต์นี้ เป็นต้น เพื่อกระตุ้นทำให้คนเข้าสู่เว็บไซต์
- Cost Per Impression (CPM) เป็นการจ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่มีคนเห็นโฆษณาของเรา โดยไม่สนใจว่าจะคลิกเข้าไปหรือไม่ จะไม่คิดเงินเป็นจำนวนครั้งแบบ CPC แต่จะเสียเงินหากโฆษณาแสดงครบจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ เช่น หากโฆษณาแสดงออกไป 1,000 ครั้งก็จะต้องจ่ายเงินค่าโฆษณา
เหมาะสำหรับ – ใช้ในการโปรโมทเว็บไซต์ สินค้าบริการ เพื่อกระตุ้นให้คนสนใจ เห็นแบรนด์เราบ่อยๆ เพื่อที่จะสร้างการจดจำแบรนด์
รูปแบบ GDN มีอะไรบ้าง พร้อมขนาดที่เหมาะสม?
- Image Ads เป็นรูปแบบยอดนิยมที่สามารถใช้เป็นภาพนิ่งก็ได้ หรือ จะเลือกเป็นภาพเคลื่อนไหว นอกจากภาพนิ่งแบบปกติแล้วยังสามารถใช้เป็นรูปแบบแบรนด์เนอร์โชว์สินค้าก็ได้ ทำให้คนเห็นสินค้า บริการเราชัดเจนว่าคืออะไร
ขนาดที่เหมาะสม – ขนาดของไฟล์ไม่ควรจะเกิน 150 KB เพราะไม่งั้นไฟล์จะใหญ่เกินไป ขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ หากเป็นด้านบน ล่างจะใช้ 728×90 หากเป็นด้านข้างจะนิยมใช้ 160×600 , 336×280 , 300×250 ตามขนาดของส่วนที่เราจะแสดงโฆษณา
- Video Ads เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ทำให้โฆษณาน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเล่าเรื่องของสินค้า บริการได้ครบมากกว่าแบบรูปภาพ อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบการแสดงวิดีโอได้หลากหลายกว่าแบบรูปภาพ
ขนาดที่เหมาะสม – วิดีโอไม่ควรเกิน 6 วินาที เนื่องจากจะทำให้ไม่น่าสนใจ และ ทำให้คนเลื่อนผ่าน ส่วนขนาดต้องดูวิดีโอของเราเป็นรูปแบบไหน
>>อ่านบทความ โฆษณา Youtube สิ่งที่ควรรู้ก่อนเสียเงินไปแบบฟรีๆ ได้ที่นี่<<
- Text Ads เป็นรูปแบบโฆษณาที่ง่าย จะปรากฏเป็นรูปแบบที่มีหัวข้อใหญ่ และ มีหัวข้อย่อใช้ในการอธิบาย ถึงแม้จะไม่สามารถพิมพ์ตัวอักษรที่ยาวมากได้ แต่ก็ทำให้เห็นตัวอักษรได้ชัด และ ยังสามารถใส่ URL ของเว็บไซต์ได้อีกด้วย
ขนาดที่เหมาะสม – หัวข้อไม่ควรเกิน 25 ตัวอักษร และ ข้อความอธิบายไม่ควรเกิน 35 ตัวอักษร
หากคุณต้องการทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก สามารถทำให้คนจดจำแบรนด์ของเราได้ การตลาดแบบ GDN ก็นับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการทำการตลาด เพียงเท่านี้คุณก็รู้รูปแบบการทำ GDN แล้วหากไม่อยากพลาดข้อมูลที่ลึกกว่านี้ต้องไปติดตามบทความต่อๆ ไป
เพราะการวางแผนสำคัญต่อธุรกิจ
Bemyfriend ไม่ใช่แค่บริษัททางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะเท่านั้น แต่เรามาพร้อมเพื่อช่วยเหลือธุรกิจของคุณทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ การวางแผนการตลาด ตลอดจนออกแบบรูปแบบการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEM SEO การยิงAds รวมถึงการตลาดรูปแบบอื่นๆ ด้วยทีมงานคุณภาพที่พร้อมจะ Support ดูแลคุณ เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
“เราพร้อมดูแลใส่ใจธุรกิจของคุณ ให้เหมือนกับว่าเป็นธุรกิจของเราเอง”
สามารถติดต่อสอบถาม bemyfriend ทางช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : Bemyfriend.agency