UTM คือ ทำไมการทำตลาดออนไลน์ต้องใช้ให้เป็น?

เมื่อเราทำการตลาด ทำการโปรโมทสินค้าบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำโฆษณาบน Facebook , การทำ SEO SEM เมื่อเราทำการตลาดไปแล้วเราจะวัดผลของการทำการตลาดได้อย่างไรกัน มารู้จัก UTM คือ อะไร จะช่วยการวัดผลได้อย่างไร ก่อนที่เราจะไปรู้จักตัวที่ใช้วัดผล เรามารู้จักกับ Parameter ซึ่งเป็นตัวแปรที่เราจะใช้ในการวัดผลของการทำการตลาด ซึ่งจะสามารถใช้ในการดู Traffic ของคนที่เข้ามาได้ มา ว่าคนเหล่านั้นมาจากไหน ช่องทางไหนที่พาคนเข้ามา หรือ มาจากโฆษณาตัวไหนกันแน่ ซึ่งเมื่อคุณรู้จักตัวแปร รู้จักUTMก็จะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่า การตลาดที่คุณทำประสบความสำเร็จหรือไม่

 

Highlight UTM ที่ต้องรู้!!!

 

UTM คือ อะไร ย่อมาจากอะไร?

UTM หรือ ชื่อเต็มๆคือ Urchin Tracking Modules ซึ่งก็คือ ชุดของตัวแปร(Parameter) ที่เราใส่ต่อท้ายจากลิ้งค์ปกติของเว็บไซต์(URL) เพื่อใช้ในการตรวจสอบ Traffic ว่าคนที่คลิกลิ้งค์ของเรา มาจากช่องทางไหนบ้าง เพื่อใช้ในการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และ รายงานผล(reports) ได้อย่างถูกต้อง โดยบางคนอาจจะเรียก UTM ว่า UTM Code , UTM Tracking หรือ UTM Parameter

ซึ่งหากพูดให้เข้าใจง่ายๆ UTM ก็เหมือนกับตัวบอกพิกัดในการทำการตลาดออนไลน์นั้นเอง ที่ใช้บอกว่าคนเข้ามาจากช่องทางไหนนั้นเอง ซึ่งจะสังเกตได้จาก URL ที่ยาวมากๆ 

 

 

รู้จักโครงสร้างของ UTM

ก่อนที่เราจะใช้งาน UTM เพื่อตรวจสอบ Traffic ที่จะเข้ามา จาก Parameter (ตัวแปรต่างๆ) เราควรที่จะรู้จักโครงสร้างของ UTM กันก่อน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ตัวแปร ดังต่อไปนี้

  • utm_source
  • utm_medium
  • utm_campaign
  • utm_term
  • utm_content

Source

(utm_source)

UTM คือ

ถือว่าเป็นตัวแปรที่ใช้งานกันค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นตัวแปรที่ใช้บอกได้ว่า ต้นทางที่นำเข้ามาสู่เว็บไซต์มากจากที่ไหน ใช้ในการระบุผู้ที่ลงโฆษณา ที่เป็นต้นทางในการส่งให้คนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรา เช่น Google , Facebook , Ads หรือ พวกโฆษณาต่างๆ

ตัวอย่างเช่น – เราทำ SEO บนเว็บไซต์หนึ่งบน Google ชื่อเว็บไซต์ว่า Shop01 (เว็บไซต์สมมติ) แสดงว่า soure ต้นทางของเราก็คือ Shop01 นั้นเอง ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ามีใครบ้างที่เข้ามาจากโฆษณาบน Shop01

ตัวอย่างการใส่ UTM – utm_source=Shop01

 

Medium

(utm_medium)

UTM คือ

เป็นตัวแปรที่ใช้บอก ช่องทาง หรือ ประเภทของคนที่เข้ามาจากต้นทาง ว่าคนที่คลิกลิ๊งค์ของเรา เขาคลิกเข้ามาจากสื่อโฆษณา หรือ การตลาดช่องทางไหน เช่น มาจาก Google (SEO) , SEM , Banner หรือ การBoostpost เป็นต้น ซึ่งเป็นการบอกว่าอะไรที่นำคนเข้ามาสู่เว็บไซต์

ตัวอย่างเช่น – คนคลิกโฆษณาของเราบนเว็บไซต์ Shop01 ที่เราได้ทำ SEO เอาไว้ แสดงว่า SEO เป็น Medium ในการนำคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรานั้นเอง

ตัวอย่างการใส่ UTM – utm_medium=SEO

Campaign

 (utm_campaign)

UTM คือ

เป็นตัวแปรที่ใช้ในการบอกชื่อของแคมเปญ ที่นำคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรา ว่ามาจากโฆษณาตัวไหน เช่น Flash sela , Big sela หรือ Brand sale เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น – เราทำการลงโฆษณาแบบ Ads หลายตัวบนFacebook โดยแคมเปญที่นำคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราเยอะๆ คือ แคมเปญ Big sela นั้นทำให้เรารู้ได้ว่าแคมเปญตัวไหนดีไม่ดีได้

ตัวอย่างการใส่ UTM – utm_campaign=Big sela

Term

(utm_term)

UTM

เป็นการใส่คำค้นหา (Keyword) เพื่อบอกว่าคนที่เข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรามาจาก Keyword อะไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำที่คนนิยมใช้ หรือ เสียเงินเพื่อซื้อคีย์เวิร์ดมา

ตัวอย่างเช่น – เราซื้อคำว่า หน้ากากอนามัย และ เจลล้างมือ เมื่อมีคนคลิกเข้ามา ด้วยคีย์เวิร์ดใดก็จะทำให้รู้ว่า คีย์เวิร์ดไหนคนคลิกเข้ามาเยอะมากกว่า

ตัวอย่างการใส่ UTM – utm_term=หน้ากากอนามัย (หากเป็นชื่อภาษาไทยจะกลายเป็นลิ้งค์ภาษาแปลกๆที่ยาวมากยิ่งขึ้น)

Content

(utm_content)

UTM

ใช้ในการแยกเนื้อหาของคอนเทนต์ ว่าคนที่คลิกเข้ามามาจากคอนเทนต์ตัวไหน คอนเทนต์ไหนที่คนให้ความสนใจ เป็นต้น อีกทั้งยังทำให้สามารถแยกลิ้งค์หลายๆลิ้งค์ ที่อยู่ในโฆษณาเดียวกันได้ว่าคนคลิกจากลิ้งค์บทความไหนอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น – เราทำ SEO เกี่ยวกับเสื้อผ้าการแต่งกาย 2 ตัว คือ คอนเทนต์เสื้อผ้าเกาหลี และ คอนเทนต์เสื้อผ้า2020 จะทำให้เรารู้ว่าคอนเทนต์ไหนคนให้ความสนใจ

ตัวอย่างการใส่ UTM – utm_content=คอนเทนต์เสื้อผ้า2020 (หากเป็นชื่อภาษาไทยจะกลายเป็นลิ้งค์ภาษาแปลกๆที่ยาวมากยิ่งขึ้น)

 

ประโยชน์ของการทำ UTM

นอกจากจะสามารถบอกพิกัด ที่มาของคนที่เข้ามาสู่เว็บไซต์ (Traffic) UTM ยังมีประโยชน์ที่สามารถนำใช้ในการทำการตลาด ดังต่อไปนี้

  • ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เนื่องจากสามารถรู้ได้ถึงที่มาของTraffic ที่ชัดเจน ทำให้ข้อมูลที่เราได้ถูกต้อง แม่นยำ
  • ทราบช่องทางที่ได้ผลดี สามารถเทียบได้ว่าสื่อที่เราใช้ ช่องทางไหนให้ผลตอบรับที่ดี
  • เปรียบเทียบผลของโฆษณาที่ทำได้ ทำให้เราทราบว่าแคมเปญที่เราทำอยู่ มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ตัวไหนดีไม่ดี

 

ทำการตลาดกับเราวิเคราะห์ขาดทุกธุรกิจ!!!

เราเป็นบริษัททางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะ ที่ให้บริการในด้านของการทำ SEM SEO รวมทั้ง การยิงAds และ รูปแบบการทำการตลาดรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งเรายังช่วยในเรื่องการวิเคราะห์และทำความเข้าใจธุรกิจตลอดจนการวางแผน และ ออกแบบรูปแบบการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณพร้อมทีม Support ที่ช่วยเหลือธุรกิจของคุณ ให้สามารถทำยอดขาย และ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

 

“เราพร้อมดูแลใส่ใจธุรกิจของคุณ ให้เหมือนกับว่าเป็นธุรกิจของเราเอง”

 

สามารถติดต่อ สอบถาม bemyfriend ช่องทางอื่นๆ ได้ที่

Facebook : Bemyfriend.agency

บทความที่เกี่ยวข้อง

GDN คือ ทำความรู้จักก่อนเริ่มทำ by Bemyfriend

จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น??? หากใครที่อยากให้แบรนด์ หรือ ธุรกิจเป็นที่รู้จัก วันนี้ทาง Bemyfriend ของเราจะมาแนะนำอีกหนึ่งรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ ที่จะทำให้คนเห็นเรา รู้จักเรามากขึ้นกว่าเดิม หลายคนอาจจะเคยเห็นการตลาดรูปแบบนี้มาแล้วบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ว่าการตลาดแบบนี้คือการตลาดแบบ GDN ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตลาดจากทาง Google ที่มีความน่าสนใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และ อาจจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มาเป็นลูกค้าในอนาคตได้อีกด้วย หากใครที่มีความสนใจ อยากจะรู้เรื่องราว จะทำความรู้จักว่าเจ้า GDN คือ อะไรกันแน่? จะช่วยให้เราเป็นที่รู้จักได้อย่างไร ไปอ่านในบทความกันเลย!!!     Highlight GDN ที่ต้องรู้!!! GDN คืออะไร??? การแสดงผลของ GDN เป็นแบบไหน? เราจะได้อะไรจากการทำ GDN? รูปแบบค่าใช้จ่ายมีแบบไหนบ้าง? รูปแบบ GDN มีอะไรบ้าง พร้อมขนาดที่เหมาะสม?     GDN คือ อะไร??? อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นแล้วว่า GDN หรือ Google display network […]

bemyfriend Team.

October 8, 2021

คําต้องห้าม Facebook ที่ต้องรู้ก่อนยิง ADs โฆษณา

การยิง Ads โฆษณาถือว่าเป็นหนึ่งในการทำการตลาดที่หลายๆ คนนิยมกันมาก แต่เคยไหมว่าบางครั้งก็ยิงโฆษณาไปแล้วแต่ก็โดนลบ หรือ บางครั้งหนักๆ หน่อยเพจร้านค้าก็ปลิวไปซะงั้นๆ ทำไมถึงเป็นอย่างงั้น??? การยิง Ads โฆษณาก็จะมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือ คําต้องห้าม Facebook ที่ห้ามมีอยู่ในโฆษณา เป็นเหมือนกฎข้อบังคับของทางเฟสบุ๊คที่เราต้องปฏิบัติตาม (Policy Facebook) คำต้องห้ามต่างๆ ก็จะมีด้วยกันหลายหมวดหมู่ตามประเภทของสินค้า และ บริการที่เราจะยิงโฆษณา บทความนี้ทาง BMF เลยจะมาแนะนำคำต้องห้ามที่ห้ามใช้ในธุรกิจ!!! จะมีคำไหนบ้างไปอ่านในบทความเลย     Highlight คำต้องห้าม ที่ต้องรู้!!! รูปแบบของการตรวจจับของ Facebook? คำต้องห้าม Facebookในแต่ละธุรกิจ     รูปแบบของการตรวจจับ คำต้องห้าม Facebook ทางเฟสบุ๊คจะมีระบบอัลกอริทึมในการตรวจจับคำอยู่ ทำให้หากคุณมีคำต้องห้ามอยู่ในโฆษณาที่คุณจะทำการยิง Ads แล้วล่ะก็ทางเฟสบุ๊คจะรู้ทันที ก่อนที่เราจะไปดูคำต้องห้ามที่ห้ามใช้สำหรับการโฆษณาธุรกิจ เราจะต้องรู้จักรูปแบบของระบบบนเฟสบุ๊คก่อน การตรวจจับคำต้องห้ามในเฟส สำหรับการยิงAds Facebook จะใช้ Bot ในการตรวจจับ ซึ่งมีความแม่นยำมากทำให้คำเหล่านั้นไม่หลุดรอดสายตาเจ้า Bot […]

bemyfriend Team.

September 21, 2021

Affiliate Marketing คือ ? ในมุมคนทำธุรกิจกับBMF

ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาไปอย่างมาก แพลตฟอร์ม หรือ ช่องทางออนไลน์ก็มีมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างนั้นเราเลยจะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งรูปแบบการทำการตลาด ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วกับแนวทางการทำการตลาดที่ชื่อว่า Affiliate Marketing คือ เทคนิคการทำการตลาดที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ แต่ต้องเคยเห็นการตลาดรูปแบบนี้มาบ้าง เพราะในประเทศไทยก็มีการทำการตลาดรูปแบบนี้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับแบรนด์เจ้าใหญ่ๆ หลายเจ้า วันนี้เราเลยจะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคการทำการตลาดนี้กัน ว่าคุณสามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างไรบ้าง จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามในบทความกันเลย     Highlight Affiliate Marketing ที่ต้องรู้!!! องค์ประกอบของ Affiliate Marketing? Affiliate Marketing คืออะไร? สามารถทำ Affiliate ได้กี่รูปแบบ? สำหรับการทำธุรกิจเราได้ประโยชน์อย่างไร? ทำไมธุรกิจควรทำ Affiliate marketing?   องค์ประกอบของ Affiliate Marketing ? ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับ Affiliate Marketing ว่าคืออะไร เราจะต้องรู้จักองค์ประกอบพื้นฐานของโมเดลการตลาดนี้กันก่อน การตลาดรูปแบบนี้เป็นการทำการตลาดโดยอาศัยผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ Advertiser (เจ้าของธุรกิจ) เป็นคนที่ต้องมีสินค้าสต็อก […]

bemyfriend Team.

September 14, 2021