ประเภทของ Keyword โฆษณาบน Google ที่ควรรู้

ประเภทของ Keyword โฆษณาบน Google ที่ควรรู้

เคยสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมโฆษณาบางตัวบน Google ถึงไม่ดีเท่าที่ควร หรือ เมื่อเทียบกันแล้วทำไมโฆษณาของอีกที่หนึ่งถึงดีกว่า ทั้งๆที่สินค้า โปรโมชั่นของเรา ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย อย่างที่เรารู้ๆกันดีว่า สิ่งสำคัญในการทำการโฆษณาบน Google ก็คือ Keyword ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้คนค้นหามาเจอเรา แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คือ ประเภทของ Keyword ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเสริมให้การทำโฆษณาของเราปังกว่าเจ้าอื่น ไม่ใช่คำไหนก็ได้ แต่ควรจะคำนึงให้เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ และ บัคเจคของเรา มารู้จักประเภทของคีย์เวิร์ดที่จะทำให้ โฆษณาของคุณกันเลย!!!

 

Highlight Keyword match type ที่ต้องรู้!!!

 

Keyword match type คืออะไร?

รูปแบบของคีย์เวิร์ดที่ทำหน้าที่ต่างกันบน Google AdWord ในการโฆษณาบน Google หรือ ที่เรามักจะเรียกกันว่าการทำ SEM เพื่อใช้ในการควบคุมการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นๆ ซึ่งก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของคีย์วิร์ดนั้นๆ อีกทั้งถ้าเลือกใช้ได้ถูกต้องยังส่งผลทำให้ค่าคลิก ที่เราต้องจ่ายในการทำโฆษณานั้นถูกลงอีกด้วย

สามารถอ่าน บทความ SEM คือ ? เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

ประเภทของ Keyword match type

ประเภทของ Keyword

สามารถแบ่งประเภทของคีย์เวิร์ดออกมาได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Broad Match , Broad Match Modifier , Phrase Match , Exact Match และ Negative Match ซึ่งในแต่ละประเภทของคีย์เวิร์ด ก็มีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของราคา และ ความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ มารู้จักแต่ละประเภทให้ดีมากขึ้นกันดีกว่า

สามารถเรียงลำดับความกว้างของคีย์เวิร์ดจากมากไปน้อย และ เรียงลำดับราคาของคีย์เวิร์ดจากถูกที่สุดไปมากที่สุด ได้ดังต่อไปนี้

  • Broad Match
  • Broad Match Modifier
  • Phrase Match
  • Exact Match
  • Negative Match

ประเภทของ Keyword

Broad Match

เป็นคีย์เวิร์ดที่กว้างมากที่สุด โดยโฆษณาจะแสดงก็ต่อเมื่อ มีคนค้นหา Keyword ที่คุณเลือกไว้ หรือ มีความใกล้เคียงกับ Keyword ของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคำที่สะกดผิด หรือ มีความหมายคล้ายกัน โฆษณาของคุณก็จะแสดงขึ้นมานั้นเอง

ตัวอย่างของ Broad Match เช่น Keyword ของเราคือคำว่า การตลาดออนไลน์ แต่ดันมีคนที่ค้นหาคำว่า เทรนด์การตลาดออนไลน์ การตลาดดิจิทัล ก็จะแสดงโฆษณาของคุณขึ้นมาด้วย

ข้อดี : ช่วยเพิ่มคนที่เห็นโฆษณาของคุณเป็นวงกว้าง และ มีคนคลิกเข้าสู่เว็บไซต์มากยิ่งขึ้น

ข้อเสีย : อาจทำให้เสียเงินไปโดยเปล่าๆ เพราะการแสดงโฆษณาที่มากเกินไป

เหมาะสำหรับทำอะไร : โฆษณาของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ราคา : ถูกที่สุด เพราะเป็นคำค้นหาที่กว้างที่สุด

 

Broad Match Modifier

เป็นคีย์เวิร์ดที่กว้างรองลงมาจาก Broad Match เป็นประเภทของคีย์เวิร์ดที่สามารถแทรกคำอื่นๆลงใน Keyword หลักได้ ทั้งหน้า , กลาง และ หลังคำหลัก โดยลักษณะของ Broad Match Modifier จะอาศัยเครื่องหมาย (+) ระหว่างคำเพื่อใช้ในการแทรกคำต่างๆนั้นเอง เพื่อทำให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยโฆษณาของเราจะแสดงก็ต่อเมื่อ มีคำที่เป็นคีย์เวิร์ดของเราอยู่ในประโยคๆนั้น

ตัวอย่าง Broad Match Modifier เช่น +การตลาด + ออนไลน์ คนอาจจะค้นหามาด้วยคำว่า การตลาดบนโลกออนไลน์ ก็จะทำให้เจอโฆษณาของเราได้

ข้อดี : Keyword มีความตรงกว่า Broad เนื่องจากสโคปในการใช้งานแคปกว่า และ สามารถจับ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับ Target ของเราได้มากขึ้น

ข้อเสีย : มีโอกาสที่มีคำแปลกๆหลุดมา อาจเป็นคำที่ไม่เกี่ยวกับ Keyword

เหมาะสำหรับทำอะไร : ธุรกิจที่ไม่อยากได้ Keyword กว้างเกินไป เหมือน Board Match และยังทำให้เกิดไอเดีย Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราได้มากยิ่งขึ้น

ราคา : แพงขึ้นกว่าแบบ Broad Match เล็กน้อย แต่ยังไม่แพงเท่ากับแบบอื่นๆ

 

Phrase Match

เป็นประเภทคีย์เวิร์ดที่แคบกว่าแบบ Broad Match และ Broad Match Modifier สามารถแทรกคำอื่นๆ ในด้านหน้า และ ด้านหลังของคำหลักได้ ซึ่งจะมีความจำเพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น โดยจะอาศัยเครื่องหมาย (” “)   เพื่อให้คำค้นหาตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง Phrase Match เช่น คีย์เวิร์ดหลักคือ “การตลาดออนไลน์” ก็อาจจะแทรกคำเป็น การตลาดออนไลน์ ใกล้ฉัน หรือ สอนการตลาดออนไลน์ เป็นต้น

ข้อดี : โฆษณาจะแสดงตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าแบบ Broad

ข้อเสีย : อาจจะมีคำที่ไม่เกี่ยวข้องติดมาบ้าง อาจทำให้ต้องเสียเวลาในการ Negative Keyword

เหมาะสำหรับทำอะไร : Keyword เป็นคำที่ไม่แคบและไม่กว้างจนเกินไป เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า
ราคา : แพงกว่าแบบ Broad แต่ยังไม่แพงเท่าแบบ Exact เพราะคำค่อนข้างมีความจำเพาะมากยิ่งขึ้น

 

Exact Match

เป็นคีย์เวิร์ดที่แคบที่สุด ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เป็นคีย์เวิร์ดที่จะแสดงโฆษณาก็ต่อเมื่อ คำค้นหาตรงกับคีย์เวิร์ดเราเท่านั้น หากเป็นคำคล้ายๆเราจะไม่ทำให้ โฆษณาแสดง

ตัวอย่าง Exact Match เช่น [การตลาดออนไลน์] ก็จะแสดงโฆษณาให้เห็นเฉพาะคำๆนี้ ถ้าเป็นคำใกล้เคียง หรือ มีความหมายเหมือน โฆษณาจะไม่แสดงออกมา

ข้อดี : โฆษณาจะแสดงเฉพาะคำที่ตรง และ ช่วยทำให้คะแนนของคุณสูงขึ้นอีกด้วย เพราะคำค้นหาของเราตรงกับ Target

ข้อเสีย : จำนวนคนที่เข้าถึงโฆษณาน้อย เพราะถ้าลูกค้าค้นหาคำที่ไม่ตรงกับที่เราตั้งคีย์เวิร์ดไว้โฆษณาก็จะไม่แสดง

เหมาะสำหรับทำอะไร : เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาคำนั้นจริงๆ

ราคา : แพงที่สุดในทุก Keyword เพราะมีความจำเพาะเจาะจง

 

คะแนนของ Ads จะถูกคิดจาก CTR , Landing page , Ad Relevance Score

  • CTR คือ จำนวนคนที่คลิกโฆษณาหารด้วยจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณา
  • Landing page คือ หน้าต่างๆบนเว็บไซต์ เป็นการเพิ่ม Quality Score ของเว็บไซต์
  • Ad Relevance Score คือ คะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณา ซึ่งวัดจากกลุ่มเป้าหมาย

 

Negative Match

เป็นคีย์เวิร์ดที่เราใช้สำหรับคำที่เราไม่ต้องการให้โฆษณาของเราแสดง เป็นเหมือนกันปิดคำค้นหาคำนั้นๆ ไม่ให้โฆษณาของเราเด้งออกมานั้นเอง คำพวกคำที่ดูไร้ประโยชน์ คำที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความแต่มีคำที่คล้ายกับที่เราใช้ ในการ Negative Keyword ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสม ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาแทนที่จะเป็นผลดีแทนได้

  •  Broad Match Negative : ไม่ควรทำการ Negative เพราะ จะทำให้ทั้งแคมเปญไม่แสดงโฆษณาของคุณ
  • Broad Match Modifier Negative : สามารถทำการ Negative ได้อาจจะไม่แสดงโฆษณาในบางครั้ง
  • Phrase Match Negative : สามารถทำการ Negative ได้ดีกว่าแบบ Broad Match Modifier
  • Exact Match Negative : สามารถ Negative ได้ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด จะทำให้โฆษณาไม่แสดงต่อคำนั้นๆ

ตัวอย่าง Negative Match เช่น เราต้องการทำคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับ การตลาดออนไลน์ แต่ไม่ต้องการให้พวกคำที่ไม่เกี่ยวข้องแสดงผลต่อโฆษณาของเรา เราก็ทำการnegativeคำนั้นไป เช่น ตลาดนัด ซึ่งเราไม่ได้อยากให้คำนี้แสดงโฆษณาของเรานั้นเอง

ข้อดี : ทำให้คำที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่แสดงโฆษณาของเราออกมา ทำให้เราไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

ข้อเสีย :  ถ้าเรา Negative คำไม่ถูกต้องอาจจะเจอปัญหาที่คำโฆษณาไม่แสดงทั้งแคมเปญ

เหมาะสำหรับทำอะไร : การสโคปคีย์เวิร์ดที่เราไม่ต้องการให้หรือ Keyword แปลก ๆ ตรงกับธุรกิจและความต้องต้องการของ Target เรามากขึ้น

ราคา : สำหรับ Negative Match ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะเป็นการ negative คำเท่านั้น

 

การเลือกประเภท Keyword ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ มีความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราควรจะเลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจ สินค้าและบริการของคุณ เพราะแต่ละธุรกิจก็จะมีความเหมาะสมกับคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรจะทำการแพลน Keyword ให้ดีก่อนที่จะทำการการโฆษณา เลือกคีย์เวิร์ดให้ดีธุรกิจก็ปัง !!!

สามารถอ่าน บทความ Google Ads เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

“เราพร้อมดูแลใส่ใจธุรกิจของคุณ ให้เหมือนกับว่าเป็นธุรกิจของเราเอง”

 

 

สามารถติดต่อ สอบถาม bemyfriend ช่องทางอื่นๆ ได้ที่

Facebook : Bemyfriend.agency

บทความที่เกี่ยวข้อง

GDN คือ ทำความรู้จักก่อนเริ่มทำ by Bemyfriend

จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น??? หากใครที่อยากให้แบรนด์ หรือ ธุรกิจเป็นที่รู้จัก วันนี้ทาง Bemyfriend ของเราจะมาแนะนำอีกหนึ่งรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ ที่จะทำให้คนเห็นเรา รู้จักเรามากขึ้นกว่าเดิม หลายคนอาจจะเคยเห็นการตลาดรูปแบบนี้มาแล้วบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ว่าการตลาดแบบนี้คือการตลาดแบบ GDN ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตลาดจากทาง Google ที่มีความน่าสนใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และ อาจจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มาเป็นลูกค้าในอนาคตได้อีกด้วย หากใครที่มีความสนใจ อยากจะรู้เรื่องราว จะทำความรู้จักว่าเจ้า GDN คือ อะไรกันแน่? จะช่วยให้เราเป็นที่รู้จักได้อย่างไร ไปอ่านในบทความกันเลย!!!     Highlight GDN ที่ต้องรู้!!! GDN คืออะไร??? การแสดงผลของ GDN เป็นแบบไหน? เราจะได้อะไรจากการทำ GDN? รูปแบบค่าใช้จ่ายมีแบบไหนบ้าง? รูปแบบ GDN มีอะไรบ้าง พร้อมขนาดที่เหมาะสม?     GDN คือ อะไร??? อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นแล้วว่า GDN หรือ Google display network […]

bemyfriend Team.

October 8, 2021

คําต้องห้าม Facebook ที่ต้องรู้ก่อนยิง ADs โฆษณา

การยิง Ads โฆษณาถือว่าเป็นหนึ่งในการทำการตลาดที่หลายๆ คนนิยมกันมาก แต่เคยไหมว่าบางครั้งก็ยิงโฆษณาไปแล้วแต่ก็โดนลบ หรือ บางครั้งหนักๆ หน่อยเพจร้านค้าก็ปลิวไปซะงั้นๆ ทำไมถึงเป็นอย่างงั้น??? การยิง Ads โฆษณาก็จะมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือ คําต้องห้าม Facebook ที่ห้ามมีอยู่ในโฆษณา เป็นเหมือนกฎข้อบังคับของทางเฟสบุ๊คที่เราต้องปฏิบัติตาม (Policy Facebook) คำต้องห้ามต่างๆ ก็จะมีด้วยกันหลายหมวดหมู่ตามประเภทของสินค้า และ บริการที่เราจะยิงโฆษณา บทความนี้ทาง BMF เลยจะมาแนะนำคำต้องห้ามที่ห้ามใช้ในธุรกิจ!!! จะมีคำไหนบ้างไปอ่านในบทความเลย     Highlight คำต้องห้าม ที่ต้องรู้!!! รูปแบบของการตรวจจับของ Facebook? คำต้องห้าม Facebookในแต่ละธุรกิจ     รูปแบบของการตรวจจับ คำต้องห้าม Facebook ทางเฟสบุ๊คจะมีระบบอัลกอริทึมในการตรวจจับคำอยู่ ทำให้หากคุณมีคำต้องห้ามอยู่ในโฆษณาที่คุณจะทำการยิง Ads แล้วล่ะก็ทางเฟสบุ๊คจะรู้ทันที ก่อนที่เราจะไปดูคำต้องห้ามที่ห้ามใช้สำหรับการโฆษณาธุรกิจ เราจะต้องรู้จักรูปแบบของระบบบนเฟสบุ๊คก่อน การตรวจจับคำต้องห้ามในเฟส สำหรับการยิงAds Facebook จะใช้ Bot ในการตรวจจับ ซึ่งมีความแม่นยำมากทำให้คำเหล่านั้นไม่หลุดรอดสายตาเจ้า Bot […]

bemyfriend Team.

September 21, 2021

Affiliate Marketing คือ ? ในมุมคนทำธุรกิจกับBMF

ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาไปอย่างมาก แพลตฟอร์ม หรือ ช่องทางออนไลน์ก็มีมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างนั้นเราเลยจะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งรูปแบบการทำการตลาด ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วกับแนวทางการทำการตลาดที่ชื่อว่า Affiliate Marketing คือ เทคนิคการทำการตลาดที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ แต่ต้องเคยเห็นการตลาดรูปแบบนี้มาบ้าง เพราะในประเทศไทยก็มีการทำการตลาดรูปแบบนี้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับแบรนด์เจ้าใหญ่ๆ หลายเจ้า วันนี้เราเลยจะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคการทำการตลาดนี้กัน ว่าคุณสามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างไรบ้าง จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามในบทความกันเลย     Highlight Affiliate Marketing ที่ต้องรู้!!! องค์ประกอบของ Affiliate Marketing? Affiliate Marketing คืออะไร? สามารถทำ Affiliate ได้กี่รูปแบบ? สำหรับการทำธุรกิจเราได้ประโยชน์อย่างไร? ทำไมธุรกิจควรทำ Affiliate marketing?   องค์ประกอบของ Affiliate Marketing ? ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับ Affiliate Marketing ว่าคืออะไร เราจะต้องรู้จักองค์ประกอบพื้นฐานของโมเดลการตลาดนี้กันก่อน การตลาดรูปแบบนี้เป็นการทำการตลาดโดยอาศัยผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ Advertiser (เจ้าของธุรกิจ) เป็นคนที่ต้องมีสินค้าสต็อก […]

bemyfriend Team.

September 14, 2021