ถ้าพูดถึงเทรนด์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา จนทำให้ใครหลายๆคน หลายๆธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง แต่จะรู้ได้ยังไงว่าในตอนนี้เทรนด์ในปัจจุบันของสินค้าและบริการของคุณเป็นอย่างไร บทความนี้จึงนำเสนอ วิธีใช้ Google Trend ที่จะทำให้คุณสามารถเช็คเทรนด์ในปัจจุบันได้ ไปอ่านกันเลย!!!
Highlight Google Trend ที่ต้องรู้!!!
Google Trend คืออะไร ?
ถ้าพูดถึงเว็บไซน์ที่คนส่วนใหญ่เข้าไปค้นหาสิ่งต่างๆบนโลกอินเทอร์เน็ต หรือ ที่เรามักจะเรียกว่า Search Engine จะพบว่าคนส่วนใหญ่มากกว่า 36 ประเทศจะใช้การค้นหาผ่านเว็บไซต์ Google มากที่สุด เนื่องจากระบบบริการต่างๆที่เข้ามาซับพอร์ตการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลเว็บไซต์ที่มากกว่าช่องทางอื่นๆ ระบบของการรองรับภาษาที่มากกว่า 80 ภาษา อีกทั้งข้อมูลต่างๆ ที่มีการอัพเดตใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้ Google เป็นหนึ่งในช่องทางยอดนิยมในการทำการตลาด ทำธุรกิจต่างๆ นอกจากนั้น Google ยังมีเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แค่คนทำธุรกิจอย่างมาก นั้นก็คือ Google Trend นั้นเอง
Google Trend คือ หนึ่งในเครื่องมือบนเว็บไซต์ Google ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของ Keyword ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับการค้นหาบน Search Engine ต่างๆ โดยเฉพาะบน Google โดยจะใช้การค้นหา Keyword บนเว็บไซต์ต่างๆ ในการคำนวณ และ แสดงผลสถิติเพื่อทำการเปรียบเทียบตามประเภทของหัวข้อนั้นๆ ซึ่งสามารถกำหนดช่วงเวลา กำหนดพื้นที่ที่ต้องการได้อีกด้วย เพื่อดูพฤติกรรมหารค้นหาว่าคนส่วนใหญ่จะค้นหาอะไรกัน
Google Trend สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ?
อยากที่ได้บอกไปว่า Google Trend จะสามารถทำให้คุณรู้พฤติกรรมการค้นหาของคนส่วนใหญ่ได้ ว่าเขาต้องการอะไร เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำการตลาดของธุรกิจคุณ นั้นทำให้ Google Trend มีความสำคัญต่อธุรกิจ เนื่องจากข้อมูลที่แสดงสถิติต่างๆ ซึ่งเมื่อนำมาวิเคราะห์จะทำให้เรามีข้อมูลในการทำการตลาดอยู่ในมือมากกว่าคนอื่น ทำให้เราสามารถวางแผนการตลาดได้ดีกว่าคนที่ไม่มีข้อมูล เพื่อช่วยในการทำการตลาดในหลายๆช่องทาง ทั้งการยิง Ads หรือ การทำSEO เป็นต้น เปรียบดังสุภาษิต “รบ100ครั้ง ก็ชนะ100ครั้ง” นั้นเอง
สามารถอ่านบทความ ช่องทางการทำ Digital marketing เพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีใช้ Google Trend ให้ธุรกิจปัง!!!
- ใส่สิ่งที่ต้องการทราบข้อมูล ในช่อง Search Term ซึ่งสามารถใส่ได้สูงสุดถึง 5 Keyword เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ อีกทั้ง Keyword ในแต่ละอันควรจะมีขอบเขตที่ใกล้กันและไม่กว้างจนเกินไป เช่น รองเท้ากีฬา เสื้อกีฬา กระเป๋ากีฬา เป็นต้น เพื่อดูว่าใน Keyword อุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬาอันไหนคนให้ความสนใจมากกว่ากัน
- ใส่ประเทศ ที่ต้องการทราบข้อมูล อาจจะดูเทรนด์จากต่างประเทศเพื่อนำมาประยุกต์กับเทรนด์ที่ประเทศไทย การระบุประเทศจะทำให้ขอบเขตในการวิเคราะห์สถิติ
- ใส่ช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นปีก่อนหน้า หรือ แนวโน้นสามเดือนที่ผ่านมา ก็สามารถทำได้ แนะนำให้กำหนดช่วงเวลาที่ไม่ไกลจนเกินไปเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน
- ใส่หมวดหมู่ เนื่องจาก Keyword บางอย่างสามารถอยู่ได้หลากหลายหมวดหมู่ หรือ อาจจะมีชื่อที่ซ้ำกัน เพื่อกันความผิดพลาดเลยจะต้องระบุหมวดหมู่ที่ต้องการด้วย เช่น หมวดกีฬา หรือ เกมส์ เป็นต้น
- ใส่แหล่งข้อมูลที่เราต้องการค้น เพื่อเป็นการเจาะจำเพาะการค้นหา ในกรณีต้องการเปรียบเทียบแบบชัดๆ เช่น เว็บไซต์เทียบเว็บไซต์ เป็นต้น
เมื่อทำการใส่ข้อมูลเรียบร้อยจะถูกแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของกราฟสถิติ ที่บอกแนวโน้มการเพิ่มขึ้น และ ลดลง นอกจากที่ Google Trend จะสามารถดูเปรียบเทียบ Keyword ต่างๆได้แล้ว ยังสามารถเปรียบเทียบ Keyword เดียวกันกับประเทศอื่นๆได้อีกด้วย
- โดยการใส่ Keyword คำเดิมอีกรอบที่ Search Term
- จากนั้นจะเห็นว่ากราฟที่ออกมาทับกันอยู่
- ให้ทำการคลิกที่เมนูจุดสามจุด ที่อยู่ตรง Search Term อันที่สอง
- จากนั้นให้เลือก Change Filters เพื่อทำการเลือกประเทศที่เราต้องการเปรียบเทียบ ก็จะทำให้รู้ว่า สองประเทศนี้มีแนวโน้มอย่างไรต่อ Keyword นั้นๆ
แค่นี้คุณก็สามารถที่จะรู้เทรนด์ในปัจจุบันได้ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น คุณยังสามารถดูเทรนด์ประเทศอื่นๆได้อีกด้วย ง่ายมากเลยใช่ไหมละ เพียงแค่นี้คุณก็สามารถกลายเป็นผู้ที่ตามเทรนด์ปัจจุบันทันแล้ว อย่าพลาดโอกาสในการทำการตลาดออนไลน์ง่ายๆ ที่คุณก็สามารถทำได้
“เราพร้อมดูแลใส่ใจธุรกิจของคุณ ให้เหมือนกับว่าเป็นธุรกิจของเราเอง”
สามารถติดต่อ สอบถาม bemyfriend ช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Facebook : Bemyfriend.agency